รวบพลยาที่กินแล้วง่วง
สำหรับคนที่ขับรถเป็นประจำจะทราบกันดีอยู่แล้วถึงกฎการขับรถต่างๆ เช่น ง่วงไม่ขับ เมาไม่ขับ ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนที่จะขับรถเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ และเราสามารถลดความเสี่ยงเหล่านั้นได้ สำหรับสาเหตุหนึ่งของการเกิดอุบัติเหตุคือการง่วง นอกจากสาเหตุจะมาจากที่เราพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว
อาจเกิดมาจากที่เราทานยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงได้ ดังนั้นวันนี้จึงจะมาแนะนำรายชื่อยาที่ไม่ควรทานหากต้องขับรถ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้
- ยากลุ่มแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ยาพวกนี้ส่วนใหญ่เมื่อทานไปแล้วจะมีผลทำให้ง่วงนอนเพราะตัวยาต้องการให้ผู้ที่ทานเข้าไปได้พักผ่อน ดังนั้นหากมีการกินยาเหล่านี้เข้าไปจะทำให้คุณรู้สึกง่วงนอนและอาจวูบตอนขับรถได้
- ยานอนหลับ บางคนเวลาอยู่บ้านจะเคยชินกับการที่ต้องกินยานอนหลับ เนื่องจากอาจเป็นโรคนอนไม่หลับ หรือมีโรคเครียด หากมีการใช้ยานี้ในช่วงที่ต้องขับรถก็จะเสี่ยงต่อการวูบหลับและก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
- ยาแก้ปวด หลายคนมักจะมีความเครียดและทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หากมีการทานยาแก้ปวดหัวเข้าไปก็ไม่ควรที่จะขับรถ เพราะยาประเภทนี้จะมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้เกิดอาการมึนงง ง่วงนอนได้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของอุบัติเหตุเหมือนกัน
- ยาคลายกล้ามเนื้อ สำหรับบางคนที่มีอาการปวดเมื่อยเนื้อตัว จากการทำงาน หรือจาการเล่นกีฬา แล้วต้องทานยาชนิดนี้ ก็ไม่ควรที่จะขับรถเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเราทานยาเหล่านี้เข้าไป จะทำให้มีอาการงง เบลอ และตัดสินใจได้ช้า เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
การเกิดอาการง่วงนอนนั้นสาเหตุมาจากการพักผ่อนน้อย นอนไม่เพียงพอบางคนยังต้องทานยาต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นอีกทำให้ร่างกายไม่สามารถทนทานต่อความง่วงได้ หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ เช่น มีการหาวบ่อยๆ ตาจะลืมไม่ขึ้น รู้สึกไม่ค่อยมีสมาธิ จำไม่ได้ว่าขับรถผ่านอะไรมาบ้าง หรือมีการขับรถออกนอกเส้น ขับรถส่าย อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนคุณเบื้องต้นแล้วว่าตอนนี้คุณง่วงมากแล้ว.
หากคุณยังฝืนที่จะขับรถต่อไปจะเกิดอุบัติเหตุแน่นอน ดังนั้นทางที่ดีคุณควรจอดรถตามปั้มน้ำมันหรือจุดพักรถ เพื่อนอนหลับสักพักให้ร่างกายของคุณได้พักผ่อนสักหน่อยค่อยขับรถต่อไป อย่าฝืนที่จะขับรถทั้งที่ง่วงนอนเพราะมันจะได้ไม่คุ้มเสีย
สนับสนุนโดย gclub ฝากขั้นต่ำ 20